การออกจากห่วงโซ่ ของความบาปในเรื่องเพศ
นำเสนอข้อมูลโดย Akesirikul
การทำบาปผิดซึ่งนำไปสู่ความตาย
ในฐานะที่เราเป็นคริสเตียน ถ้าเราพลาดไปทำบาปผิดในเรื่องเพศดังกล่าว จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา
ถ้าหากเราไปหมกมุ่นในเรื่องเพศ ดังที่ได้กล่าวยกตัวอย่างมาแล้วเบี้องต้น
จะเป็นเหตุทำให้เราไปกระทำความผิดทางเพศได้ง่าย เกิดการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส ไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา
และอาจจะลุกลามไปจนถึงการขายบริการทางเพศ การข่มขืน ไปจนถึงการฆ่าข่มขืนได้
การทำสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เราตกลงไปสู่ความบาปผิดทางเพศมากขึ้น และมากขึ้น และยากต่อการเลิก เปลียบเสมือนการติดยาเสปติด
หากเราไม่หยุด ไม่กลับใจใหม่ อาจเป็นเหตุทำให้เราต้องหลบหน้าพระเจ้า และทิ้งพระเจ้าไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น เราถูกตัดขาดจากพระเจ้าอย่างถาวร เมื่อนั้นแหละ คือความบาปที่จะนำเราไปสู่ความตายนิรันดร์ อย่างแท้จริง
จากความคิดพิจารณาของผม จากการศึกษาพระคัมภรี์ และจากการอธิษฐาน การเผ้าเดี่ยวกับพระเจ้าโดยส่วนตัวของผมเอง
สำหรับผมเคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาอย่างโชกโชนในสมัยก่อนจะมาเชื่อพระเจ้า และหลังจากที่ผมได้เชื่อพระเจ้ามาเป็นเวลากว่า 10 ปีมาแล้ว
ผมเองก็ได้มีประสบการณ์ และได้ศึกษากฏบัญญัติ กฏเกณฑ์ และเรื่องราวของการกระทำความบาปผิดเช่นนี้
เพื่อระวังตนเอง ให้อยู่ในทางของพรเจ้าเสมอ และไม่ให้เกิดความบาปที่กลายไปเป็น บาปที่นำไปสู่ความตายอย่างแท้จริง
มีศิษย์ยาภิบาล นักเทศน์หลายท่าน และอาจารย์หลายคน เคยพูดเกี่ยวกับความบาปทางเพศนี้ไว้ว่า
เป็นความบาปที่นำไปสู่ความตาย
ความบาปที่นำไปสู่ความตาย หมายความว่าอย่างไร
ถ้าผมเป็นคริสเตียน ที่ยังเชื่อพระเจ้า ยังติดสนิทอยู่กับพระเจ้า แล้วผมเกิดพลาดท่า เหมือนคนอื่นๆ ที่หลงไปทำความผิดทางเพศเข้า
แบบนี้ ผมได้ทำความบาปที่นำไปสู่ความตายเข้าแล้ว จิตวิญญาณต้องตาย หรือไม่ได้รับความรอดอย่างนั้นจริงๆหรอ จริงตามคำเทศนาของเหล่านักเทศน์หรือ
เรามาพิจารณาดูถึงความขัดแย้งของเหล่านักเทศน์ กับพระคำสอนของพระเยซูเอง ในพระคัมภีร์ไบเบิลกัน
ความบาปที่นำไปสู่ความตายคืออะไร หรือมันคือควาบบาปที่พระเจ้าเกินกว่าจะอภัยให้เราได้อย่างนั้นหรอ
พระธรรมมัทธิว 12:31-32 กล่าวไว้ว่า "เพราะฉะนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่า ความผิดบาปและคำหมิ่นประมาททุกอย่างจะโปรดยกให้มนุษย์ได้
เว้นแต่คำหมิ่นประมาทพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงโปรดยกให้ผู้นั้นไม่ได้"
หมิ่นพระวิญญาณบริสุทธ์หมายถึงปฏิเสธ พระคุณของพระเจ้าครับ หรือพูดง่ายๆก็คือ
การที่มนุษย์ได้ปฏิเสธพระเจ้า ไม่เอาพระเจ้า ไม่เชื่อในพระเจ้า ทั้งๆที่รู้ว่าพระองค์ดี เป็นพระเจ้าของทุกสรรพสิ่ง เป็นพระผู้ทรางสร้างโลก และจักรวาล
แต่มนุษย์ ก็เลือกที่จะปฏิเสธพระองค์ครับ ตัวอย่างเช่นพวกที่ขายวิญญาณให้ซาตาน อะไรทำนองนี้
ผมไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธไม่ยอมรับการปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระเจ้า
แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ เลือกที่จะทำผิดดังกล่าว
เช่น การล่วงประเวณี เป็นเหตุให้เกิดความบาป ซึ่งนำไปสู่ความตาย
ไม่มีใครอยากทำบาปที่นำไปสู่ความตายหรอกครับ ไม่มีใครอยากฝ่าฝืนกฏ หรือผิดศีลธรรม แต่มันเป็นเรื่องฝืนธรรมชาติ ฝืนความคิดในจิตใจ
และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องยากๆๆๆ สำหรบมนุษย์ ที่จะทำตามกฏบัญญัตต่างๆได้ด้วยใจของตนเอง
แต่เพราะพระเจ้าทรงทราบว่า มนุษย์นั้นอ่อนแอต่อการล่อลวง และหลงผิดไปทำบาปได้โดยง่าย
ทางรอดของมนุษย์มีทางเดียวเท่านั้นครับ คือ พระคุณของพระเจ้า โดยของประทาน
ยอห์น 3:16 สอนเราว่า "เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์
เพื่อทุกคนที่เชื่อวางใจในพระองค์ จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์"
ความรอดได้รับโดยความเชื่อ (เอเฟซัส 2:8) โดยการต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด (ยอห์น 1:12) และไว้วางใจอย่างสิ้นสุดใจในพระเยซูองค์เดียว
แล้วของประทานที่ประเจ้าได้ทรงประทานให้ละครับ คือชีวิตนิรันดร์ ซึ่งพระเจ้าได้ประทานให้กับผู้ที่เชื่อในพระองค์
ถ้าไม่เช่นนั้น เราจะมีพระผู้ช่วยให้รอดไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่ในโลกนี้เต็มไปด้วยการล่อลวงให้เกิดการกระทำบาปอยู่ตลอดเวลา
ถ้าเป็นอย่างที่นักเทศน์พูดว่า การล่วงประเวณี เป็นความบาปที่นำไปสู่ความตาย
และถ้าเป็นแบบนี้ พระคุณของพระเจ้าก็ไร้ความหมาย ไม่ได้ช่วยให้ผู้เชื่อรอดจากการตกนรก
เพราะความอ่อนแอของมนุษย์ที่พลาดไปทำบาป ด้วยเรื่องล่วงประเวณี
จะมีสักกี่คน ในพี่น้องคริสต์จักรแต่ละแห่ง ที่เชื่อในพระเจ้า เข้าโบรถ์ทุกวัน นมัสการพระเจ้าทุกอาทิตย์ จะไม่ทำพลาด ไม่ทำบาปการล่วงประเวณีได้
ถึงจะเป็นนักเทศน์ ผมก็ว่ารู้หน้า ไม่รู้ใจ ลับหลังกระทำอย่างไร ซ่อนความบาป ต่อหน้าทำดี เทศนาสั่งสอนคน ลับหลังไปทำบาปมากมาย
ถัาเป็นเช่นนั้นจริง พระเจ้าก็จะอภัยบาปผิด และพระองค์จะทรงสร้างนักเทศน์เหล่านั้นใหม่ ทำงานในจิตใจเขา ให้เขากลับใจใหม่ได้ในที่สุด
เช่นเรา ซึ่งเป็นผู้เชื่อในพระเจ้า ก็มีสิทธิ์ที่จะพลาดท่า กระทำบาปผิดทางเพศได้เสมอ
แต่หากเรายังติดสนิทอยู่กับพระเจ้า ไม่หันหลังให้พระเจ้า ทำผิดแล้วมาสารภาพบาปผิด ขอพระเจ้าช่วยเหลือ
มีหรือที่พระองค์จะตอบว่า บาปของเจ้าเป็นบาปที่จะนำไปสู่ความตาย เป็นบาปที่เกินกว่าจะอภัย ไม่สามารถอภัยให้ได้หรอก
คุณเชื่อเช่นนั้นหรอครับ ถ้าคุณเชื่อเช่นนั้น ว่าเป็นบาปที่เกินอภัย ไม่สามารถอภัยให้ท่านได้ คุณนั้นแหละที่หมิ่นประมาทพระเจ้าเข้าแล้ว โดยไม่ได้ตั้งใจ
โรม 6:23
เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา..
ดังนั้น การไม่เชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า ในที่นี้ และในโลกนี้คงไม่มีใคร หรือมนุษย์คนไหน ที่จะกล้าปฏิเสธพระบัญญัติของพระเจ้าหรอกครับ
แต่เพราะเราต่างก็ทราบดีกันอยู่แล้วว่า พระเจ้าทรงประทานพระบัญญัติ เพื่อให้เป็นกฏเกณฑ์ให้มนุษย์กระทำแต่ความดี รู้ว่าสึ่งใดเป็นความบาป
แต่จะมีมนุษย์สักกี่คน ที่ไม่ได้ทำบาปเลย และอยู่ในกฏเกณฑ์ของพระเจ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตามพระบัญญัติทุกประการ
ก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็อาจมีน้อยคนนักที่ทำได้ใช่ไหมละครับ
เท่าที่ผมได้เห็น และรู้จัก คือศิษยาภิบาลของผมเอง อาจารย์เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนมาก ไม่ใช่แต่ในเฉพาะที่เขาอยู่ในคริสตจักร ต่อหน้าสมาชิกจำนวนมาก
แต่ลับหลังของศิษยาภิบาลคนนี้ ผมก็เชื่อว่าเขาสามารถปัฏิบัติตนเองให้อยู่ในกฎบัญญัติของพระเจ้าได้ตลอดเวลา เพราะอะไร
เพราะว่า เขาใช้ชีวิตที่ติดสนิทกับพระเจ้าตลอดเวลา อยู่ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเต็มไปด้วยการเจิม ด้วยฤทธิเดช และด้วยไฟของพระวิญญาณพระเจ้า
ผมเองโชคดีที่อยู่ในคริสตจักรของพระเจ้า ที่เต็มไปด้วยฤทธิ์เดชนั้น จึงได้รับการชำระ และได้รับการเปลี่ยนแปลง และการสร้างใหม่เสมอมา
แต่โดยมนุษย์ทั้วๆไป ซึ่งเป็นคนบาป และอ่อนแอต่อการล่อลวงให้ทำบาป และโดยการล่อลวงจากผีมารซาตาน วิญญาณชั่วทั้งหลาย
มนุษย์จึงได้ทำผิด หลงกระทำบาปไป จะโดยเจตนา หรือไม่ได้เจตนาก็ตาม เพราะทุกคนเป็นคนบาป และอ่อนแอ แต่อาศัยอยู่บนโลกแห่งการล่อลวง ให้กระทำบาป
ไม่เช่นนั้น พระเจ้าก็คงไม่ส่งพระบุตรของพระองค์ลงมา เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ และทรงไถ่บาปให้กับมนุษย์
โดยพระคุณ และไม่ใช่การกระทำเพื่อให้พ้นบาปได้ด้วยตัวของมนุษย์เอง
สรุป
ดังนั้น บาปผิดซึ่งนำไปสู่ความตาย จะมีอยู่เพียงข้อเดียวเท่านั้น
ความบาปนี้จะเกิดได้เฉพาะกับมนุษย์ที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า และไม่ได้เชื่อว่า พระเยซู เกิดมาเพื่อลบล้างความบาปผิดให้กับท่านด้วยพระคุณของพระเจ้า
และไม่ยอมรับองค์พระผู้ช่วย พระเยซูคริสต์เข้ามาสถิตอยู่กับเรา
ความบาปหล่านี้แหละ ที่เป็นความบาปที่นำไปสู่ความตายนิรันดร์
จะนำเหล่ามนุษย์ผู้ไม่เชื่อดิ่งลงสู่นรก พร้อมกับผีมารซาตาน ในวันที่พระเจ้าพิพากษาโลก ตัดขาดเรากับพระเจ้าตลอดนิรันดร์
หมายเหตุสำคัญที่ต้องพิจารณา
การอภัยบาปผิดของพระเจ้า มีเงื่อนไขด้วยหรือครับ ว่า
มนุษย์ผู้เชื่อในพระเจ้าจะต้องอยู่ในกฎบัญญัติของเจ้าเท่านั้นห้ามทำบาปผิด ห้ามฝ่าฝืนกฏเกณฑ์ของพระเจ้า
มนุษย์ต้องไม่พลาดท่าจากการล่อลวงของมาร หรือความต้องการของเนื้อหนังของตนเอง หลงไปกระทำบาปผิด ซึ่งเป็นบาปที่นำไปสู่ความตาย
ถ้ามนุษย์รักษากฎนี้ไว้ไม่ได้ พระเจ้าจะพิพากษามนุษย์ผู้นั้น ให้ไปสู่ความตายนิรันดร์ คือบึงไฟนรก
อย่างนั้นหรือ ?
กฏบัญญัติในคริสตจักรที่ว่า
ขอให้เด็กวัยรุ่น และหนุ่มสาวคริสเตียนทุกคน รักษาตัวให้บริสุทธิ์ และอย่ามีเพศสัมพันธ์กัน จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน
แต่ถ้าเขาอดทนรอวันแต่งงานไม่ไหวละครับ พวกเขาก็มีโอกาสพลาดพลั้งได้เสมอ และเขาเกิดทำผิดไปมีเพศสัมพันธ์กัน กับคู่ของเขาด้วยความรัก
แล้วเขาจะตกสู่บาปที่จะนำเขาทั้งสอง ซึ่งเป็นลูกรักของพระเจ้า ถูกนำไปสู่ความตาย หรือว่ามันเป็นบาปที่เกินกว่าจะอภัยให้ได้
จะเป็น
อย่างที่นักเทศน์ได้สั่งสอนเอาไว้เช่นนั้นจริงๆหรือ
ประเด็นสำคัญ ความรอดโดยพระคุณ
ผมขอให้ผู้เชื่อทุกท่านเข้าใจว่า
พระเยซูคริสต์เจ้า พระองค์ทรงรับเอาความบาปผิดของเราไปหมดสิ้นแล้ว บนไม้กางเขน
สำหรับผู้ที่เชื่อว่าพระองค์เป็นพระเจ้า ความรอดจะมาถึงท่าน โดยพระคุณ ไม่ใช่จากการกระทำด้วยตัวท่านเอง
นักโทษผู้หนึ่ง ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยถูกตรึงไว้บนกางเขนพร้อมกับพระเยซู
ซึ่งแน่นอน นักโทษผู้นั้นได้กระทำบาปผิด ที่จะนำไปสู่ความตายทั้งทางร่างกาย และจิตวิญญาณเอาไว้มากมาย
แต่ประเด็นที่พระเยซูได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ ( ลูกา 23 : 43 )
เราบอกความจริงกับท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม
นักโทษผู้นั้น ต้องตายทางร่างกายเพราะถูกประหารชีวิตตามความผิดทางอาญาก็จริง
แต่จิตวิญญาณของเขาถูกรับขึ้นไปอยู่บนสวรรค์แล้ว โดยพระเยซูคริสต์
เพราะว่า นักโทษผู้นั้น เชื่อว่าพระเยซูคริสต์ เป็นพระเจ้า และสามารถช่วยเขาให้รอดจากคามตายนิรันดร์ได้
บาปที่นำไปสู่ความตาย ไม่ได้หมายความว่า เมื่อผู้เชื่อทำบาปผิดร้ายแรง แล้วท่านจะไม่ได้รับความรอด จะต้องตกนรกตามคำเทศนาของนักเทศน์
การหลุดออกจากความบาปในเรื่องเพศได้ ท่านจะต้องแก้ไขอย่างไร
ท่านควรจะพิจารณา พระคำของพระเจ้าให้ดี ว่าบาปใดที่นำไปสู่ความตาย เกินกว่าที่จะอภัยให้ได้ คือบาปอะไร กลับไปดูข้อพระคัมภีร์
( พระธรรมมัทธิว 12:31-32 และ โรม 6:23 )
ท่านอย่าได้คิดน้อยใจ จนคิดประชดตนเอง หรือลงโทษตนเองที่ได้พลาดเป้า กระทำความบาปผิดไป
และคิดไปว่า จะเป็นบาปที่นำไปสู่ความตาย แล้วท่านจะหมดโอกาสในความรอดอีกต่อไป
จนได้ประชดตนเองทำความผิดมากขึ้น แบบไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว เพราะคิดว่าตนเองจะไม่ได้รับความรอดอีกต่อไป
เป็นความคิดที่ผิด เหมือนคนคิดสั้น ฆ่าตัวตาย
สิ่งที่ท่านต้องทำคือ การกลับใจใหม่
การที่ท่านยังติดสนิทอยู่กับพระเจ้า ไปนมัสการพระเจ้าที่คริสตจักร เป็นประจำ อธิษฐาน สารภาพบาปผิด คุยและเผ้าเดี่ยวกับพระเจ้า รับใช้พระเจ้าสม่ำเสมอเป็นกิจวัตร
ถึงแม้ว่าท่านจะพลาดเป้า กระทำบาปผิดไปสักแค่ไหน ท่านก็ไม่ตกนรกหรอกครับ ถ้าท่านกลับใจใหม่ และสารภาพบาปต่อพระเจ้า
ผมไม่ได้หมายความว่า เมื่อท่านมีสิทธิพิเศษ ไม่ตกนรกแล้ว ท่านกลับไปทำบาปผิดมากขึ้น แบบไม่เกรงกลัวพระเจ้า
ถ้าเป็นเช่นนั้นท่านจะไม่ได้รับการอภัยอย่างแน่นอน ท่านต้องคิดใหม่ ขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ให้ปกป้องท่านไว้จากการพลาดไปทำบาปเหล่านั้นอีก
โดยพระคุณ และความรักของพระเจ้า เราเป็นเสมือนแก้วตาดวงใจของพระเจ้า
พระเจ้าทรงรักเรามาก พระองค์จะสร้างเราขึ้นใหม่ ให้เป็นคนใหม่ที่บริสุทธิ์มากขึ้น และมากขึ้น จนถึงวันที่พระเจ้ารับเราไปอยู่กับพระองค์เป็นนิรันดร์
เมื่อนั้น ลูกของพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระองค์ จะได้รับการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพ ชีวภาพ และจิตวิญญาณ
ได้รับกายใหม่ เมื่อนั้นท่านจะบริสุทธิ์ เป็นเหมือนพระเยซูคริสต์ มีชีวิตนิรันดร์ อยู่ในสวรรค์ของพระองค์
|